การทบทวนแนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของไทย: ความท้าทายระหว่างเทคโนโลยีและความต้องการของชุมชน
การทบทวนแนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของไทย: ความท้าทายระหว่างเทคโนโลยีและความต้องการของชุมชนฝ
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ได้กลายเป็นวาระสำคัญของการพัฒนาเมืองในประเทศไทย แต่แนวทางการดำเนินงานในปัจจุบันกำลังสะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างที่สำคัญระหว่างนโยบายระดับสูงและความเป็นจริงในระดับพื้นที่
ความไม่สมดุลในการให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี
หน่วยงานระดับนโยบายของรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการพัฒนาเมือง โดยมุ่งเน้นการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์และระบบที่มีความซับซ้อนและมีราคาสูง แม้ว่าแนวคิดนี้จะมาจากความตั้งใจที่ดีในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่กลับละเลยองค์ประกอบสำคัญอื่นๆ ของการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน
ปัญหาของการขาดการมีส่วนร่วม
การพัฒนาเมืองอัจฉริยะในปัจจุบันมักเกิดจากการตัดสินใจแบบบนลงล่าง (Top-down) โดยขาดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นและความต้องการที่แท้จริงจาก
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความเข้าใจบริบทพื้นที่
- ประชาชนผู้อาศัยในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง
- ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการในท้องถิ่น
- ภาคประชาสังคมและองค์กรชุมชน
ผลกระทบที่ตามมา
การดำเนินการในลักษณะนี้นำมาซึ่งปัญหาหลายประการ:
1. การลงทุนที่ไม่คุ้มค่า เนื่องจากเทคโนโลยีที่นำมาใช้อาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริง
2. ความยั่งยืนในการบำรุงรักษาระบบ เมื่อท้องถิ่นขาดความพร้อมในการดูแลระบบที่ซับซ้อน
3. การสูญเสียโอกาสในการพัฒนาศักยภาพท้องถิ่น ทั้งในด้านบุคลากรและการพัฒนานวัตกรรมที่เหมาะสมกับพื้นที่
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
เพื่อให้การพัฒนาเมืองอัจฉริยะเกิดประโยชน์สูงสุด ควรพิจารณาแนวทางดังนี้:
1. การปรับกระบวนการพัฒนานโยบาย
- สร้างกลไกการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงจากทุกภาคส่วน
- จัดทำการศึกษาความต้องการและความพร้อมของพื้นที่ก่อนการตัดสินใจลงทุน
- พัฒนาตัวชี้วัดความสำเร็จที่สะท้อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตมากกว่าจำนวนเทคโนโลยีที่ติดตั้ง
2. การเสริมสร้างศักยภาพท้องถิ่น
- พัฒนาบุคลากรท้องถิ่นให้มีความเข้าใจและสามารถบริหารจัดการเทคโนโลยีได้
- สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมที่เหมาะสมกับบริบทพื้นที่
- สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์
3. การปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
- กำหนดเกณฑ์การพิจารณาที่ให้น้ำหนักกับความเหมาะสมกับบริบทพื้นที่
- ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และปรับตัว
- สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีที่มีความยืดหยุ่นและสามารถพัฒนาต่อยอดได้
บทสรุป
การพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่แท้จริงไม่ควรวัดความสำเร็จจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาจากการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและความยั่งยืนของการพัฒนา การสร้างสมดุลระหว่างการนำเทคโนโลยีมาใช้กับการพัฒนาศักยภาพท้องถิ่นจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
ดร.กฤษฎา แก้ววัดปริง