การจัดทำแผนแม่บทสมาร์ทซิตี้โดยใช้แนวคิด Design Thinking
การจัดทำแผนแม่บทสมาร์ทซิตี้โดยใช้แนวคิด Design Thinking เป็นกระบวนการที่มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจความต้องการ (Empathize) ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน รวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาและความท้าทายในพื้นที่ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม การคมนาคม คุณภาพชีวิต การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เศรษฐกิจ การบริหารจัดการ และพลังงาน
เมื่อได้ข้อมูลที่ครบถ้วนแล้ว จึงนำมาสู่การกำหนดโจทย์ (Define) ที่ชัดเจน โดยวิเคราะห์ประเด็นปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข กำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายการพัฒนาที่สอดคล้องกับบริบทของเมือง พร้อมทั้งจัดลำดับความสำคัญของโครงการต่างๆ ให้เหมาะสมกับทรัพยากรและข้อจำกัดที่มี
ขั้นตอนต่อมาคือการระดมความคิด (Ideate) จากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ศึกษาแนวทางปฏิบัติที่ดีจากเมืองอัจฉริยะที่ประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาแนวคิดโครงการที่เหมาะสมกับบริบทของเมือง โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินการและความยั่งยืนในระยะยาว
การสร้างต้นแบบ (Prototype) เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการแปลงแนวคิดสู่การปฏิบัติ โดยจัดทำแผนปฏิบัติการทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว กำหนดรูปแบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และออกแบบกลไกการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อให้การพัฒนาเมืองอัจฉริยะเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล
ขั้นตอนสุดท้ายคือการทดสอบ (Test) โดยคัดเลือกโครงการนำร่องที่มีความพร้อมและส่งผลกระทบสูงมาดำเนินการก่อน มีการติดตามและประเมินผลอย่างเป็นระบบ เพื่อนำข้อมูลและบทเรียนที่ได้มาปรับปรุงแผนให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
การพัฒนาสมาร์ทซิตี้ทั้ง 7 ด้านต้องดำเนินการอย่างบูรณาการและเชื่อมโยงกัน เริ่มจากด้านสิ่งแวดล้อม (Smart Environment) ที่มุ่งเน้นการจัดการขยะและมลพิษอย่างชาญฉลาด ควบคู่กับการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ด้านการเดินทาง (Smart Mobility) ที่พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะและจัดการจราจรให้มีประสิทธิภาพ ด้านการใช้ชีวิต (Smart Living) ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านระบบสาธารณสุขและความปลอดภัยอัจฉริยะ
ด้านการพัฒนาคน (Smart People) เน้นการเสริมสร้างทักษะดิจิทัลและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้านเศรษฐกิจ (Smart Economy) ส่งเสริมการค้าดิจิทัลและระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพ ด้านการบริหารจัดการ (Smart Governance) พัฒนาบริการภาครัฐดิจิทัลที่โปร่งใสและมีธรรมาภิบาล และด้านพลังงาน (Smart Energy) ที่มุ่งสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนและระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ
การใช้กระบวนการ Design Thinking ในการจัดทำแผนแม่บทสมาร์ทซิตี้จะช่วยให้การพัฒนาเมืองอัจฉริยะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง และนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์สู่ความเป็นจริง