ศึกชิงอนาคตอินเทอร์เน็ต! OpenAI เปิดตัวเบราว์เซอร์ใหม่ ชน Google เต็ม ๆ
สนามรบแห่งอนาคตอินเทอร์เน็ตกำลังเดือดขึ้นอีกขั้น! การชักเย่อเพื่อกำหนดทิศทางของโลกออนไลน์ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลัง OpenAI ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่ ใจกลางธุรกิจหลักของ Google นั่นคือ การเป็นผู้ควบคุม 'ประตูหน้า' สู่โลกอินเทอร์เน็ต
สัปดาห์นี้ OpenAI ได้ปล่อย ChatGPT Atlas ซึ่งเป็นเว็บเบราว์เซอร์สำหรับเดสก์ท็อปที่ฝังด้วยแชตบอต AI ยอดนิยมตัวนี้เข้าไปด้วย ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงวิธีขยายขีดความสามารถของ ChatGPT ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานรายสัปดาห์กว่า 800 ล้านคน เท่านั้น แต่ยังเป็นการ พยายามที่จะเป็นเส้นทางหลัก ในการเข้าถึงเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และบริการออนไลน์อื่น ๆ ทำให้ ChatGPT เข้ามามีบทบาทโดยตรงในทุกสิ่งที่ผู้คนทำบนโลกออนไลน์ ซึ่ง Google ครองธุรกิจนี้มานานกว่าสองทศวรรษ แต่ OpenAI กำลังเดิมพันว่าจะเริ่มเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งนี้ได้
ChatGPT Atlas ของ OpenAI ไม่ใช่เบราว์เซอร์ขับเคลื่อนด้วย AI ตัวแรกและตัวเดียว เพราะบริษัทค้นหา AI อย่าง Perplexity ก็เพิ่งเปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet ไปเมื่อเดือนกรกฎาคม แต่ด้วยฐานผู้ใช้มหาศาลของ ChatGPT ทำให้ Atlas กลายเป็น ภัยคุกคามที่น่ากลัวที่สุดต่อ Google ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการก้าวพ้นจากการแสดงผลแบบรายการ 'ลิงก์สีฟ้า' แบบเดิม ๆ
“เบราว์เซอร์ของคุณคือที่ที่งาน เครื่องมือ และบริบททั้งหมดของคุณมารวมกัน” Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI กล่าวในบล็อกโพสต์ประกาศเปิดตัว Atlas “เบราว์เซอร์ที่สร้างด้วย ChatGPT จะพาเราเข้าใกล้การเป็น 'ผู้ช่วยอัจฉริยะขั้นสูง (super-assistant)' ที่แท้จริง ที่เข้าใจโลกของคุณและช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้”
แน่นอนว่าเครื่องมือค้นหาของ Google ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเบราว์เซอร์ Chrome นั้นจะยังไม่หายไปไหนในเร็ววัน แต่มีข้อมูลบางส่วนที่บ่งชี้ว่าผู้บริโภคกำลังหันมาใช้ AI สำหรับบางงานที่ก่อนหน้านี้พวกเขาอาจต้องพึ่งพาลิงก์จากการค้นหา ข้อมูลจากการศึกษาของ Pew Research พบว่า ผู้คนมีแนวโน้มที่จะคลิกที่ลิงก์น้อยลงเมื่อมีการแสดง สรุปที่สร้างโดย AI ใน Google และรองประธานอาวุโสฝ่ายบริการของ Apple ก็เคยให้การในศาลเมื่อต้นปีนี้ (ตามรายงานของ Bloomberg) ว่าจำนวนการค้นหาบนอุปกรณ์ของ Apple ลดลงเป็นครั้งแรก ในเดือนเมษายน
การเปิดตัวของ Atlas และความสำเร็จของมัน จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าผู้บริโภคพร้อมที่จะเปลี่ยนมาใช้ AI สำหรับความต้องการในชีวิตประจำวันอย่างจริงจังหรือไม่
สำหรับเว็บเบราว์เซอร์และเครื่องมือค้นหาของ Google การมุ่งสู่ AI และการลดบทบาทของลิงก์ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม Atlas ของ OpenAI ได้วาง ChatGPT เป็นศูนย์กลางของประสบการณ์การท่องเว็บตั้งแต่เริ่มต้น
เมื่อเปิดเบราว์เซอร์ สิ่งที่ต้อนรับคุณคือ ช่องค้นหาของ ChatGPT ไม่ใช่ของ Google พร้อมด้วยคำแนะนำสำหรับหัวข้อที่น่าสนใจ หรือภารกิจที่มอบหมายให้ตัวแทน AI ของ ChatGPT จัดการ เช่น การวางแผนทริปวันหยุดสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ ยังมีปุ่มที่ด้านบนของหน้าจอที่ดึง ChatGPT ขึ้นมาในแถบด้านข้าง (Sidebar) ซึ่งผู้ใช้สามารถถามคำถามหรือให้สรุปเนื้อหาของหน้านั้นได้ (เช่น ผมลองให้ ChatGPT อธิบายความแตกต่างระหว่าง “earnings” และ “adjusted earnings” เพียงแค่ไฮไลต์ข้อความในบทความแล้วพิมพ์ 'what’s this?') ยิ่งไปกว่านั้น ยังมี โหมด Agent ของ ChatGPT ที่สามารถจัดการงานต่าง ๆ แทนคุณได้ เช่น เมื่อผมขอให้มันหาร้านบาร์ที่มีเครื่องดื่มราคาถูกใกล้รถไฟใต้ดินสาย 7 ในย่าน Long Island City ของนิวยอร์ก และให้จองโต๊ะสำหรับสามคน ChatGPT ก็แนะนำค็อกเทลบาร์ที่มีข้อเสนอ Happy Hour ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานี Queensboro Plaza พอดี แถมยังถามด้วยว่าผมต้องการจองในเวลาใด
แน่นอนว่า Google ก็กำลังเดินไปในทิศทางที่คล้ายกันมากกับเบราว์เซอร์ของตัวเอง ซึ่งครองส่วนแบ่งการเข้าชมเว็บเกือบ 72% อย่างน่าตกตะลึง ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ Statcounter Global Stats
ผลการค้นหาของ Google มีการสรุปด้วย AI อยู่ที่ด้านบน, ผู้ช่วยดิจิทัล Gemini สามารถสรุปหน้าเว็บและตอบคำถามใน Chrome ได้ และบริษัทยังนำเสนอต้นแบบ Web Agent ที่สามารถจัดการงานบางอย่างได้ เช่น การจ้าง Task Rabbit มาประกอบเฟอร์นิเจอร์ หรือการจองโรงแรมตามข้อมูลจากอีเมลและปฏิทินของผู้ใช้
แต่การเปิดตัว Atlas เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมกำลังตั้งคำถามเกี่ยวกับบทบาทของ Google ในอนาคตของเว็บ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาใน คดีผูกขาดการค้นหาครั้งประวัติศาสตร์ ที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้องต่อบริษัท บทบาทของ AI ในอนาคตของการค้นหาออนไลน์ของผู้คนเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของ ผู้พิพากษา Amit Mehta ซึ่งอนุญาตให้ Google ยังคงเป็นเจ้าของ Chrome ต่อไปได้โดยไม่ต้องถูกแยกส่วน
“ดังนั้น กระบวนการเยียวยาเหล่านี้จึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งเสริมการแข่งขันระหว่าง (เครื่องมือค้นหาทั่วไป) พอ ๆ กับการรับรองว่าการครอบงำของ Google ในการค้นหาจะไม่ถูกนำไปใช้ในพื้นที่ของ GenAI (ปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์) การเยียวยาที่โจทก์เสนอหลายอย่างถูกสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลังนี้เป็นหลัก” เอกสารของศาลจากเดือนกันยายนระบุไว้
เบราว์เซอร์ของ OpenAI เพิ่งเปิดตัวได้เพียงวันเดียว และยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะโดนใจผู้บริโภคอย่างกว้างขวางเท่ากับ ChatGPT หรือไม่ แต่การเปิดตัวครั้งนี้ ยิ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของ OpenAI ที่จะเข้ามามีบทบาทพื้นฐานในวิธีการที่ผู้คนใช้เทคโนโลยี โดยเริ่มจาก ChatGPT, การค้นหา และตอนนี้คือเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งในที่สุดก็จะขยายไปสู่ ฮาร์ดแวร์สำหรับผู้บริโภค
หากฟังดูคุ้นหู นั่นก็เป็นกลยุทธ์ที่ OpenAI ทำตามตำราของ Google นั่นเองครับ
#DRKRIT drkrit.com #กระแสไอที #ข่าวไอที #ไทยสมาร์ทซิตี้