🇸🇦 ซาอุฯ ทุ่มเงินมหาศาล ปั้นประเทศสู่ "ขุมพลัง AI ระดับโลก"

ซาอุดีอาระเบียกำลังเบนเข็มใช้ความมั่งคั่งจากน้ำมันมาผลักดันความทะเยอทะยานด้าน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ครั้งใหญ่

หัวหอกด้านการลงทุนหลักของซาอุฯ คือ "Humain" บริษัท AI สัญชาติท้องถิ่นที่กำลังสร้างระบบนิเวศ AI แบบครบวงจร (full stack) ทั้งศูนย์ข้อมูล (Data Centers), ระบบคลาวด์ (Cloud capabilities), โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models) และแอปพลิเคชันต่าง ๆ โดยบริษัทนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Fund) ของซาอุฯ ที่มีมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์

มกุฎราชกุมาร โมฮัมหมัด บิน ซัลมาน ทรงเปิดตัว Humain เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้าการเยือนริยาดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และในสัปดาห์นี้ ที่งานประชุม Future Investment Initiative ประจำปี ก็ทำให้เราได้เห็นภาพรวมของขนาด โครงการที่ทะเยอทะยาน และเงินทุนมหาศาลที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้ชัดเจนขึ้น

คุณ Tareq Amin ซีอีโอของ Humain ประกาศเป้าหมายอันกล้าหาญที่จะทำให้ซาอุดีอาระเบียเป็น ตลาด AI ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและจีน แม้ซาอุฯ จะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมนี้ แต่คุณ Amin ยืนยันว่า ความได้เปรียบในการแข่งขันของราชอาณาจักรอยู่ที่ ทรัพยากรพลังงานที่อุดมสมบูรณ์และราคาถูก ซึ่งสามารถป้อนความต้องการพลังงานคอมพิวเตอร์ที่ดูเหมือนจะไม่รู้จักพอได้

"เรามีความได้เปรียบในซาอุดีอาระเบีย" เขากล่าวกับ Becky Anderson แห่ง CNN "ลองดูโครงข่ายพลังงานที่น่าทึ่งของประเทศนี้สิ บริษัทอย่าง Humain ไม่จำเป็นต้องสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยหรือระบบไฟฟ้าเพื่อส่งไปยังศูนย์ข้อมูลด้วยตัวเอง นั่นหมายความว่า ผมประหยัดเวลาไปได้ถึง 18 เดือน"

Humain วางแผนที่จะสร้างศูนย์ข้อมูลที่มีกำลังการผลิตรวมสูงถึง 6 กิกะวัตต์ ทั่วประเทศภายในปี 2034 โดยมีพันธมิตร AI คนสำคัญมากมาย เช่น Nvidia, AMD, Amazon Web Services, Qualcomm และ Cisco

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Humain เพิ่งประกาศดีลใหญ่ 3 พันล้านดอลลาร์ กับบริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่อย่าง Blackstone เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลในซาอุฯ นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการของ "Humain One" ระบบปฏิบัติการที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งผู้ใช้สามารถ "พูด" หรือ "พิมพ์" เพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานต่าง ๆ ได้เลย แทนที่จะต้องคลิกไอคอนเหมือนในระบบทั่วไปอย่าง Windows หรือ iOS

ปัจจุบัน Humain ใช้ระบบ AI นี้ในการบริหารจัดการงานภายในองค์กรเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบุคคล (HR), การเงิน, กฎหมาย, การดำเนินงาน และไอที คุณ Amin เผยว่า ตอนนี้แผนกจ่ายเงินเดือน (Payroll) ของเขามีพนักงานเหลือเพียงคนเดียวเท่านั้น โดยมี AI Agent เข้ามาจัดการส่วนที่เหลือ

ขณะนี้ ซาอุฯ กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของแผนปฏิรูปเศรษฐกิจ Vision 2030 ท่ามกลางความท้าทายจากราคาน้ำมันที่ลดลง และความล่าช้าในการสร้างโปรเจกต์ขนาดใหญ่อย่างเมือง Neom ทำให้การผลักดัน AI ยิ่งมีความเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอาหรับ

อย่างไรก็ตาม ซาอุฯ ก็ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากเพื่อนบ้านอย่าง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งมีหน่วยงานด้าน AI ของตัวเองชื่อ G42 และเพิ่งบรรลุข้อตกลงครั้งสำคัญกับรัฐบาลทรัมป์เพื่อสร้าง “Stargate UAE” โครงการศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมามูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ที่ถูกขนานนามว่าเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดนอกสหรัฐฯ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก OpenAI, Oracle, Nvidia และ Cisco

เมื่อถูกถามว่า พื้นที่ในภูมิภาคนี้เพียงพอสำหรับผู้เล่นระดับยักษ์ใหญ่ถึงสองรายหรือไม่ คุณ Amin กล่าวว่า เขาสนับสนุนการกระจายอำนาจของ AI พร้อมทั้งชูจุดเด่นด้านการปฏิบัติงานที่แข็งแกร่งของ Humain

"เป็นเรื่องดีสำหรับมนุษยชาติที่จะมีความรู้ โดยเฉพาะเรื่อง AI ซึ่งไม่ควรถูกรวมศูนย์ไว้ในที่เดียว ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นใน UAE ก็เป็นเรื่องดี สิ่งที่เกิดขึ้นในซาอุดีอาระเบียก็เป็นเรื่องที่ดีมาก" เขากล่าว "แต่ผมจะบอกคุณว่า สิ่งที่เราตัดสินใจทำนั้นแตกต่างออกไป ... Humain ไม่ได้เป็นเพียงแค่บริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) แต่เราเป็นบริษัทปฏิบัติการ (Operating Company) ที่ลงมือทำจริง"

#DRKRIT drkrit.com #กระแสไอที #ข่าวไอที #ไทยสมาร์ทซิตี้