สัญญาณแรก ยอดขาย iPhone 17 ไปได้สวยแค่ไหนกันนะ?
Apple ได้เผยข้อมูลรายได้ประจำไตรมาสที่สี่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เราเห็นภาพแรก ๆ ว่า iPhone 17 ซีรีส์ ที่เพิ่งเปิดตัวไปนั้นเริ่มจะ "เข้าที่เข้าทาง" ในตลาดแล้วหรือยัง
รายได้ของ Apple สำหรับไตรมาสที่สิ้นสุดในเดือนกันยายน เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่ยอดขาย iPhone นั้นพลาดเป้าไปเล็กน้อย โดยยอดขาย iPhone ในไตรมาสที่สี่อยู่ที่ 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 4.62 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ก็ต่ำกว่าที่ Wall Street คาดการณ์ไว้ที่ 5.01 หมื่นล้านดอลลาร์เล็กน้อย ส่วนรายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 1.025 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 9.49 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
Apple ย้ำว่าทั้งรายได้รวมและยอดขาย iPhone นั้น ทำสถิติสูงสุดสำหรับไตรมาสที่สี่ ของบริษัท นอกจากนี้ รายได้จากส่วน "บริการ" (Services revenue) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญอีกตัวหนึ่ง ก็ทำสถิติ สูงสุดตลอดกาล ด้วยมูลค่า 2.88 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากประมาณ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
ในระหว่างการแถลงผลประกอบการเมื่อวันพฤหัสบดี Tim Cook ซีอีโอของ Apple ได้กล่าวว่า บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาสเดือนธันวาคมนี้ “จะดีที่สุดเท่าที่บริษัทเคยทำมา และจะดีที่สุดสำหรับ iPhone” ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ายอดขาย iPhone 17 น่าจะแข็งแกร่ง ส่งผลให้หุ้น Apple ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 3% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ
Wall Street กำลังมองหาความมั่นใจว่า ตัวขับเคลื่อนรายได้ที่ใหญ่ที่สุด ของ Apple ยังคงเติบโตได้ดี แม้จะมีข้อกังวลว่าบริษัทอาจจะตามหลังคู่แข่งใน "สงคราม AI" ก็ตาม นักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับ iPhone 17 ซีรีส์ที่ Apple เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนกันยายน
อย่างไรก็ตาม ยอดขายโดยรวมในประเทศจีนกลับลดลง เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดย Apple สร้างรายได้ในภูมิภาคนี้ได้ 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ปี 2024 เคยทำไว้ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ Cook กล่าวว่า เขาคาดว่ารายได้จาก iPhone ในจีนจะ กลับมาเติบโตอีกครั้ง ในไตรมาสปัจจุบัน โดยอิงจากการตอบรับต่อ iPhone 17
ผลประกอบการล่าสุดนี้ให้ภาพแรกเริ่มของยอดขาย iPhone เนื่องจากไตรมาสที่สี่ของ Apple สิ้นสุดลงในวันที่ 27 กันยายน ซึ่งเป็นเวลา แปดวันหลังจากการเปิดตัว iPhone 17 กระนั้นก็ตาม เป็นไปได้ว่ายอดขายในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมอาจชะลอตัวลง เนื่องจากผู้บริโภครอ iPhone 17 Counterpoint Research ระบุว่า iPhone 17 ซีรีส์มียอดขายแซงหน้าซีรีส์ก่อนหน้าถึง 14% ในช่วง 10 วันแรกในสหรัฐอเมริกาและจีน โดยรุ่น iPhone 17 ธรรมดา และ iPhone 17 Pro Max เป็นรุ่นที่มีความต้องการมากที่สุด ส่วน iPhone Air ที่ถูกโฆษณาว่าเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา กลับได้รับความสนใจจากลูกค้าน้อย (muted customer interest) อ้างอิงจาก UBS ซึ่งติดตามเวลารอสินค้าของ iPhone รุ่นใหม่
ธุรกิจ iPhone ของ Apple อยู่ภายใต้การจับตาดูอย่างใกล้ชิดเสมอในฐานะ แหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท แต่ปีนี้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังให้ความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่าในที่สุด อุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาจจะเข้ามาแทนที่สมาร์ทโฟน
แม้ว่าก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์เคยซักถาม Apple เกี่ยวกับกลยุทธ์ AI ของพวกเขาในการแถลงผลประกอบการครั้งก่อน ๆ แต่คราวนี้ Wall Street กลับให้ความสนใจใน ปัจจัยที่ขับเคลื่อนความต้องการ iPhone และผลกระทบจากภาษีศุลกากร (tariffs) มากกว่า Apple เปิดเผยว่าคาดว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับภาษีศุลกากรถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสนี้
แต่เมื่อถูกถามว่าการเกิดขึ้นของแชตบอทและแอป AI จะเปลี่ยนวิธีการใช้งานแอปของผู้บริโภคหรือไม่ Tim Cook กล่าวว่าเขาเห็น “โอกาสบน App Store” สำหรับ AI นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่า Apple Intelligence ซึ่งเป็นชุดฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับ iPhone และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของบริษัท เป็นแรงจูงใจให้ผู้คนอัปเกรด iPhone “ผมอยากจะบอกว่า Apple Intelligence เป็นปัจจัยหนึ่ง และเรามองโลกในแง่ดีว่ามันจะกลายเป็นปัจจัยที่ใหญ่ขึ้น และนี่คือมุมมองของเรา” เขากล่าว
ก่อนหน้านี้ Apple ได้เลื่อนการอัปเดต Siri ที่จะทำให้มันใกล้เคียงกับ ChatGPT ของ OpenAI และ Gemini ของ Google ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google, Microsoft, และ Samsung ยังคงทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์ไปกับโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ของตน
ผลประกอบการครั้งนี้เกิดขึ้นในปีที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับ Apple
บริษัทได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเผชิญแรงกดดันจากรัฐบาลทรัมป์ให้ผลิต iPhone ภายในประเทศ โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Apple ได้ให้คำมั่นว่าจะลงทุน 6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อขยายการดำเนินงานในสหรัฐอเมริกา แต่ผลประกอบการในวันพฤหัสบดีนี้ ควบคู่ไปกับการที่บริษัทมีมูลค่าตลาดทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อต้นสัปดาห์ ก็ถือเป็น จุดเปลี่ยน ที่สำคัญ
#DRKRIT drkrit.com #กระแสไอที #ข่าวไอที #ไทยสมาร์ทซิตี้